Thai (ภาษาไทย)English (United Kingdom)

Home
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คว้ารางวัล Gold Award จาก The American Heart Association ก้าวสู่โรงพยาบาลหัวใจมาตรฐานระดับโลก
Monday, 15 July 2024 01:50

รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงยุวรีย์ พิชิตโชค รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและทรัพยากรบุคคล กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้รับรางวัล Gold award จาก the American Heart Association (AHA) หรือสมาพันธ์แพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติ  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดและมีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยจำนวนมาก มุ่งให้บริการแก่ประชาชนทุกระดับ เป็นสถานฝึกอบรมแพทย์ระดับชาติและนานาชาติ ให้บริการด้านวิชาการ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ และศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อเป็นที่พึ่งทางสุขภาพของประชาชนคนไทยทุกระดับชั้น

http://www.chulahf.org/images/CHF2023/441068459_941377811109514_4853526067273672996_n.jpg

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงศริญญา ภูวนันท์ หัวหน้าสาขาวิชาภาวะหัวใจล้มเหลวและอายุรศาสตร์การปลูกถ่ายหัวใจ (Heart failure and transplant cardiology) และเป็น clinical champion ของรางวัลนี้ ได้กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการคุณภาพการของ the American Heart Association ชื่อโครงการ the American Heart Association Get with the Guidelines of Heart Failure (โครงการคุณภาพการดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานเวชปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว) ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การได้มาซึ่งรางวัลคุณภาพ Gold Award อันทรงเกียรตินี้ โรงพยาบาลต้องผ่านการตรวจรับรองเกณฑ์หรือตัวชี้วัดต่าง ๆ ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 2 ปี (ห้ามตกเกณฑ์ในการดูแลผู้ป่วยตลอด 730 วัน)  ในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่ในระดับสากลรับรองว่า หากผู้ป่วยได้รับการรักษาตามเกณฑ์ตัวชี้วัดเหล่านี้ จะทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสมรรถนะการออกกำลังที่ดีขึ้น และมีอัตราการนอนโรงพยาบาลซ้ำลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  ผู้ป่วยบางรายก่อนเข้ารับการรักษามีอาการเหนื่อยมาก มีภาวะน้ำท่วมปอดต้องนอนโรงพยาบาลซ้ำบ่อยครั้ง หลังได้รับการรักษาตามเกณฑ์ดังกล่าวพบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น และไม่เคยกลับเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกเลย ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการหนักถูกส่งตัวมาจากแพทย์โรคหัวใจจากต่างโรงพยาบาลเพื่อปลูกถ่าย (เปลี่ยน) หัวใจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แต่หลังจากการได้รับการดูแลตามมาตรฐานดังกล่าว ผู้ป่วยกลับมีอาการดีขึ้นและไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจอีก  ความสำเร็จของการได้รับรางวัล Gold Award ของ the American Heart Association Get with the Guidelines of Heart Failure ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีผู้สนับสนุนและดำเนินการหลังบ้าน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ ได้แก่ นายแพทย์ ธนวินทร์ สุขสิริวรบุตร นายแพทย์พีรวัฒน์ ภูวัตณัฐสิทธิ์ แพทย์หญิงธมลวรรณ โอสถธนากร พว. ภาวิณี นาควิโรจน์  พว. ลัดดาวัลย์ ไกรรักษ์ น.ส. จินดารัตน์ ซาวคำ และอาจารย์แพทย์โรคหัวใจและแพทย์ฝึกอบรมทุกท่าน รวมถึงบริษัทโนวาร์ติส (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว คือ ผู้ป่วยแบบใด

รองศาสตราจารย์นายแพทย์ สุพจน์ ศรีมหาโชตะ หัวหน้าสาขาวิชาอายุรศาสตร์หัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) แท้ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ ภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหันที่อย่างที่บางท่านอาจเข้าใจผิด แต่ภาวะหัวใจล้มเหลวนั้นเป็นภาวะที่หัวใจ “ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องปั๊ม (pump)” เลือด ทำงานได้ลดลง ปั๊มเลือดได้น้อยลง ดังนั้นเลือดจึงไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง และขณะเดียวกันเมื่อปั๊มเสียการทำงาน จะมีน้ำคั่งบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น น้ำคั่งในปอด (ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อย นอนราบไม่ได้ นอนแล้วหายใจอึดอัดต้องลุกขึ้นมานั่ง) หรือน้ำคั่งบริเวณขา (ผู้ป่วยอาจมีขาบวม) น้ำคั่งในช่องท้อง (ผู้ป่วยอาจมีอาการท้องอืด) เป็นต้น  ภาวะหัวใจล้มเหลวจึงเกิดได้กับผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจทุกประเภท หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจทุกประเภทมีโอกาส (มีสิทธิ์) ที่จะมีภาวะหัวใจล้มเหลวได้ โรคหัวใจที่เป็นสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวได้บ่อย ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคลิ้นหัวใจรั่ว ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาจากภาวะความดันโลหิตสูง เป็นต้น

ภาวะหัวใจล้มเหลว จัดเป็น โรคหรือภาวะที่เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก และถือเป็นภาวะที่มีค่าใช้จ่ายทางสาธารณสุขมากเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากผู้ป่วยโรคนี้มักเข้าออกรักษาตัวในโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ในปัจจุบันมีผู้ป่วยมากกว่าประมาณ 64 ล้านคนทั่วโลกประสบภาวะหัวใจล้มเหลว อุบัติการณ์ของภาวะหัวใจล้มเหลวในประเทศไทยยังไม่มีตัวเลขแน่ชัด แต่คาดว่ามีผู้ป่วยไทยประมาณ 4 ล้านคนประสบภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจล้มเหลวถือว่าน่ากลัวกว่าโรคมะเร็งบางชนิด เพราะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง โดยมีอัตราการเสียชีวิตที่ 1 ปี ประมาณร้อยละ 20-30 และอัตราการเสียชีวิตที่ 5 ปี เกินร้อยละ 50 กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยจะตายที่ 5 ปี การรักษามาตรฐานของภาวะหัวใจล้มเหลว คือ การรักษาสาเหตุของโรคหัวใจที่ทำให้หัวใจปั๊มเลือดได้ผิดปกติ การให้ยาตามมาตรฐานตามเวชปฏิบัติ (guideline-directed medical therapy) การฝังเครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในหัวใจ และในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาจจำเป็นต้องได้รับการใส่เครื่องพยุงหัวใจ หรือการปลูกถ่ายหัวใจ

http://www.chulahf.org/images/CHF2023/img_3714%20select%20reduce.jpg

ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์ สมชาย ปรีชาวัฒน์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นศูนย์ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดในทุกมิติ ทั้งการรักษาด้วยยา การรักษาด้วยการฝังเครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หัวใจ การจี้ไฟฟ้าหัวใจ การสวนหัวใจ การขยายหลอดเลือดหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัด การเปลี่ยนลิ้นหัวใจด้วยสายสวน การผ่าตัดหัวใจทุกชนิดทั้งชนิดทั่วไปและชนิดซับซ้อน การฝังเครื่องปั๊มหัวใจเทียม การปลูกถ่ายหัวใจ โดยมีอาจารย์แพทย์ที่มีความชำนาญมากประสบการณ์ในการรักษา และมีฝีมือที่ดีมากมาย ศูนย์โรคหัวใจมีเครื่องมือเทคโนโลยีทางด้านการวินิจฉัยและการรักษาหัวใจที่ทันสมัยระดับสากล เรามีความมุ่งหวังในการพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้มีคุณภาพยิ่ง ๆ ขึ้น และมีนวัตกรรมปรับใช้กับผู้ป่วยคนไทย และก้าวพัฒนาต่อไปเพื่อเป็นที่พึ่งของการรักษาโรคหัวใจแก่ประชาชนชาวไทยทุกคน สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.chulahf.org/ หรือ https://youtu.be/1H7UjfLgyv8

 

http://www.chulahf.org/images/CHF2023/312236703_6098894373463678_4417866675575549450_n.jpg

 

Heart Failure and Transplant Card Staff Login

Scientific Meetings and Academic Calendar

 

 

Statistics

Content View Hits : 13672818